เว่ยเจิง ขุนนางผู้ไม่ไว้หน้ากษัตริย์

หลังเหตุจลาจลที่ประตูเสวียนอู่ผ่านพ้นไป มีคนหลายคนต่างเตือนหลี่ซื่อหมินว่า: “เว่ยเจิงเคยเข้าร่วมกองทัพปฏิวัติของหลี่มี่และโต้วเจี้ยนเต๋อ หลังจากที่ทั้งสองพ่ายแพ้การต่อสู้ในครั้งนั้น เว่ยเจิงก็ทำงานให้กับรัชทายาทเจี้ยนเฉิง และเคยทูลให้เจี้ยนเฉิงกำจัดหลี่ซื่อหมิน” หลี่ซื่อหมินเรียกเว่ยเจิงเข้าพบ จากนั้นจึงถามเขาว่า “เหตุใดท่านจึงสร้างความร้าวฉานให้กับครอบครัวของเรากันเล่า?” เว่ยเจิงกราบทูลด้วยสีหน้าที่ไม่ยำเกรงว่า “น่าเสียดายที่ตอนนั้นรัชทายาทไม่ทำตามคำที่ข้าน้อยกราบทูล มิเช่นนั้นแล้ว วันนี้คงไม่ต้องตกอยู่ในชะตากรรมเช่นนี้” หลี่ซื่อหมินรู้สึกว่าเว่ยเจิงเป็นคนที่พูดจาตรงไปตรงมา และมีความกล้าหาญ เขาไม่เพียงแต่ไม่ฆ่าขุนนางผู้นี้ แต่หลังจากที่เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ยังทรงแต่งตั้งให้เขาทำหน้าที่เป็นขุนนางจอมทัดทานประจำราชสำนักอีก ด้วย

เว่ยเจิงกล้าที่จะเสนอความคิดเห็นอย่างไม่เกรงกลัวอาญาใดๆ เมื่อเขาพบว่ากษัตริย์ถังไท่จงทรงมีรับสั่งในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร ก็จะถวายการทัดทานอย่างไม่ไว้หน้า ทำให้พระองค์กริ้วจนไม่รู้จะเอาพระพักตร์ไปไว้ที่ใด มีอยู่ครั้งหนึ่ง เว่ยเจิงโต้เถียงกับพระองค์ในท้องพระโรงจนหน้าดำหน้าแดง หลังจากกลับถึงพระตำหนัก พระองค์ทรงมีรับสั่งกับพระชายาว่า: “คงมีสักวัน ที่ข้าจะต้องตัดศีรษะขุนนางเก่าแก่อย่างเว่ยเจิง! เขาพูดจาไม่เคยไว้หน้าข้าแม้แต่น้อย ทำให้ข้าต้องอับอายต่อหน้าเหล่าขุนนางในท้องพระโรง!”

หลังจากพระมเหสีได้ฟังเช่นนั้น จึงรีบเปลี่ยนฉลองพระองค์มาอยู่ในชุดที่เป็นทางการ จากนั้นจึงก้มลงกราบกษัตริย์ถังไท่จงแล้วทูลว่า: “กระหม่อมขอแสดงความยินดีกับพระองค์ด้วยเพคะ! กษัตริย์ผู้ทรงมีพระปรีชาฌานเท่านั้นจึงสามารถมีขุนนางที่เถรตรงอยู่ข้างพระ วรกาย การเป็นคนมีนิสัยเช่นนี้ของเว่ยเจิง แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้าแผ่นดินที่ทรงเป็นผู้มีพระปรีชาฌานยิ่งเพ คะ!” เมื่อพระองค์ได้สดับฟังดังนั้น ความโกรธก็มลายหายไป

ครั้นปี ค.ศ. 643 เว่ยเจิงถึงแก่อสัญกรรม กษัตริย์ถังไท่จงทรงเสียพระทัยอย่างมาก พระองค์ทรงตรัสว่า: “การใช้คันฉ่องทองเหลืองสามารถส่องดูการแต่งตัวได้ เฉกเช่นเดียวกับการนำประวัติศาสตร์มาเป็นกระจกเงาสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่ง เรืองและก ารล่มสลาย ดังนั้น การนำคนมาเป็นกระจกเงาสามารถทำให้ล่วงรู้ความถูกและความผิดได้เช่นกัน บัดนี้เว่ยเจิงได้เสียชีวิตไปแล้ว ข้าก็ถือว่ามีกระจกเงาน้อยลงไปอีกหนึ่งบาน”

Credit :: viหัดคลาน @ ThaiVI

Runner. Investor. Father.