เครื่องซักผ้าฝาหน้า

เครื่องซักผ้าฝาบน vs เครื่องซักผ้าฝาหน้า

เครื่องซักผ้าฝาหน้า

หลายอาทิตย์ก่อน มีความคิดจะเปลี่ยนเครื่องซักผ้าที่บ้าน (แบบฝาบน) ก็พอดีเหลือบไปเห็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มีโฆษณาเครื่องซักผ้าลดราคาที่ Home Pro

ไม่รอช้า รีบนั่งรถไฟฟ้าไปดูทันที พอไปถึงปรากฏว่าเป็นเครื่องซักผ้ายี่ห้อ Samsung ซึ่งเคยมีประเด็นกันมาก่อน เกี่ยวกับจอ LCD เลยตัดสินใจไม่เอาดีกว่า เดินดูไปดูมาซักพัก sale ก็เดินเข้ามาแนะนำให้ลองดูเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้า พร้อมบรรยายสรรพคุณ เปรียบเทียบให้ฟังว่า 2 แบบนี้มันต่างกันยังไง ข้อดี ข้อด้อย ฯลฯ

บรรยายอะไรมา ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่พอบอกว่าถนอมผ้าเท่านั้นแหละ หูผึ่งเลย เพราะหลังๆ เสื้อผ้าลูกซื้อมาได้ไม่กี่เดือน ขาดเป็นรูหลายตัวเลย ทั้งที่บางตัวซื้อมาตั้งแพง ส่วนนึงเพราะเครื่องแบบฝาบน มันปั่นผ้าแรงมาก แล้วบางทีเนื้อผ้า ก็ดันไปดึงกับผ้าผืนอื่น ดึงกันไปมาในถังปั่น จนผ้าเสียทรงบ้าง ขาดบ้าง กระดุมหลุดบ้าง

แต่ด้วยความที่ราคา เครื่องซักผ้าฝาหน้า มันแพงกว่า เครื่องซักผ้าฝาบน เกือบ 2 เท่าตัว อย่างเครื่องซักผ้าฝาบน 12kg จะประมาณ 8-9 พันบาท แต่พอเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้า 8kg ราคาโดดไป 2 หมื่นกว่าๆ เลย ลืมบอกไปว่า sale โม้ให้ฟังอีกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า 8kg จะจุได้พอๆ กับเครื่องซักผ้าฝาบน 12kg ซึ่งจริงไม่จริง เดี๋ยวจะบอกอีกที

เครื่องซักผ้าฝาหน้าถึงราคามันจะแพงกว่าเยอะมาก ด้วยความที่อยากให้เสื้อผ้าลูกๆ ไม่ขาดก่อนเวลาอันควร ก็เลยคิดว่าจะกัดฟันซื้อเครื่องซักผ้าฝาหน้านี่แหละ ไม่เอาแล้วเครื่องซักผ้าฝาบน เข็ด ว่าแล้วก็เดินดูอยู่หลายรุ่น หลายยี่ห้อ จนมาสะดุดกับ LG 8kg รุ่น Direct Motor อะไรซักอย่าง ตามในรูปเลย

เครื่องซักผ้าฝาหน้า
เครื่องซักผ้าฝาหน้า

ที่ชอบไม่ใช่อะไร มันมีป้ายเขียนว่า  SALE ตัวโตวางอยู่บนนั้น ฮ่าๆๆๆ พอบอก sale ว่าสนใจรุ่นนี้แหละ ราคาเท่าไหร่ sale ก็รีบหยิบเครื่องคิดเลขพกพาออกมาติ๊ดฉี่งๆๆ แล้วก็พรรณนาสรรพคุณไปพร้อมๆ กัน แบบ multitasking ส่วนลด 4000 บาท แล้วลดอีก 8% แถม voucher อีก 250 บาท สรุปง่ายๆ คือ ราคาเต็มมัน 20,900 บาท แต่ได้ลดโน่น นี่นั่น เหลือราวๆ 15,xxx บาท แล้วก็มีของแถมอีก นิดๆ หน่อยๆ

ใช้เวลาตัดสินใจอีก 2-3 นาที ก็ตอบตกลง เอารุ่นนี้แหละ แล้วก็ลงไปจ่ายเงิน พนักงานบริการดีมาก ทั้ง sale และ cashier เลย สมกับเป็นมืออาชีพ (มิน่าราคาหุ้นขึ้นกระฉูด)

แล้วอีก 2-3 วัน ช่างของทาง Home Pro ก็เข้ามาติดตั้ง พร้อมยกตัวเก่าออกให้ บริการดีใช้ได้เลย ติดตั้งอยู่ 30-40 นาที ก็เรียบร้อย พร้อมใช้งาน เราก็ไม่รอช้า เอาเสื้อผ้ายัดใส่เครื่อง ซักทันที ด้วยความเห่อ

แล้วก็ได้เห็นการทำงานของมัน ทั้งเงียบ ทั้งไม่ดึงเสื้อผ้าไปมา เสื้อผ้าเหมือนถูกคลุกอยู่ข้างใน ขึ้นลงๆ ตามแรงโน้มถ่วง อืมดีแหะ ผ้าไม่ขาดก่อนเวลาอันควรแน่ๆ ละ แต่สะอาดรึเปล่าต้องรอเสร็จก่อน

แล้วก็รอจนเครื่องมันเสร็จทุกอย่าง เปิดฝาออกมา ผ้าชื้นๆ นิดๆ แหะ มันปั่นหมาดไม่แห้งเท่าแบบฝาบน แต่ไม่เป็นไร เอาขึ้นไปตาก แป๊บเดียวก็แห้ง อาจจะนานกว่ากันนิดหน่อย ส่วนเรื่องความสะอาด ถือว่าสะอาดไม่แพ้กัน ผ้าหอมเหมือนใหม่ทุกตัว

อ่อ เรื่องขนาดถังที่ว่าฝาหน้า 8kg เทียบเท่าฝาบน 12kg เท่าที่ลองใช้ดู น่าจะราวๆ 10-11kg มากกว่า แต่ก็เรียกว่าจุใช้ได้เลย ถ้าขนาดครอบครัว 3-4 คน รับรองว่าเครื่องฝาหน้า 8kg รองรับได้แน่นอน

ข้อดีของเครื่องซักผ้าฝาหน้า นอกจากจะถนอมเนื้อผ้าแล้ว ยังมีเรื่องประหยัดน้ำด้วย ซึ่งด้วยความที่มันใช้น้ำน้อย มันส่งผลให้ไม่ต้องใช้ผงซักฟอกเยอะตามไปด้วย เวลา rinse ผ้าก็จะไม่ค่อยมีผงซักฟอกตกค้าง ไม่เหมือนแบบฝาบนที่ต้องใช้ผงซักฟอกปริมาณค่อนข้างเยอะ เพื่อให้พอดีกับน้ำในถัง

แล้วก็อีกอย่างคือสามารถปรับอุณหภูมิน้ำได้ด้วย ว่าจะใช้ความร้อนระดับไหน ถ้าเป็นฝาบน ต้องมีเครื่องทำน้ำร้อนต่างหาก แล้วต่อสายเข้ามา แต่เครื่องฝาหน้า จะมีเครื่องทำความร้อนในตัวเลย ตอนปั่นผ้า จับฝาหน้าดู จะรู้สึกได้ถึงความร้อนของน้ำผ่านกระจกด้านหน้า ยิ่งถ้าเลือกโปรแกรมซักเป็นแบบเสื้อผ้าเด็ก มันจะใช้ความร้อนระดับ 60 องศา เพื่อฆ่าเชื้อโรคไปในตัว

นอกจากปรับอุณหภูมิได้แล้ว ยังสามารถปรับรอบความเร็วในการปั่นแห้งได้ด้วย รุ่นนี้ได้เร็วสุด 1400 รอบ  แรกๆ ไม่รู้ ปั่นปกติ จะเลือกที่ 800 รอบ อัตโนมัติ ผ้าที่ซักเสร็จใหม่ๆ เลยรู้สึกชื้นกว่าปกติ แต่พอเลือกที่ 1400 รอบ ทีนี้ผ้าหมาดขึ้นเยอะ ถึงจะยังชื้นกว่าแบบฝาบน แต่ก็ไม่มากละ ใครไม่ชอบตากผ้าทิ้งไว้นานๆ กลัวกลิ่นอับในวันไม่มีแดด ก็อย่าลืมเลือกรอบ spin ที่ 1400 รอบทุกครั้ง

ข้อดีข้อสุดท้าย คือ เครื่องแบบฝาหน้า แทบไม่เจอปัญหาเครื่องค้างเลย ต่างกับแบบฝาบนที่เวลาซักๆ ไป ผ้าเหวี่ยงไปถ่วงด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป เครื่องจะหยุดทำงาน เราต้องเปิดฝาแล้วปรับสมดุลผ้าในถังด้วยมือ

ทีนี้มาถึงข้อเสียบ้าง อย่างแรกคือ หาผงซักฟอกเฉพาะของเครื่องซักผ้าฝาหน้ายากมากๆ ไปที่ไหนก็หาไม่มี จนไปเจอที่โลตัส มีอยู่รุ่นเดียว คือ บรีส เอกเซล โกลด์ (ไม่ได้ค่าโฆษณาเน้อ)

บรีส เอกเซล โกลด์
บรีส เอกเซล โกลด์

ทั้งหายาก ทั้งแพงกว่าปกติอีกต่างหาก (แพงกว่าประมาณ 40%) แต่จำเป็นต้องเอา เพราะมันเป็นสูตรเฉพาะสำหรับฝาหน้า ที่ต้องเลือกให้ตรง เพราะฝาหน้ามันมีปัญหาอีกอย่างคือ เวลาใส่ผงซักฟอกผิดประเภท และใส่เยอะเกินไป ฟองมันจะล้นออกมาผ่านฝาหน้า ฟองเยอะมาก เพราะฉะนั้นถ้าใครจะเลือกใช้เครื่องฝาหน้า ก็ควรจะซื้อผงซักฟอกแบบเฉพาะของมัน

อ่อ ข้อเสียอีกอย่างสำหรับเครื่องฝาหน้า คือ ถุงเท้าคู่เล็กๆ ชอบกระเด็นมาติดขอบตรงยางฝาหน้า แล้วก็ไม่โดนปั่นอีกเลยจนเสร็จ ค้างอยู่ตรงนั้นแหละ วิธีแก้ก็ไม่ค่อยสะดวก เพราะฝาหน้า มันมีระบบ auto lock คือ พอเครื่องเริ่มทำงาน ฝาหน้ามันจะโดนล็อคไม่ให้เปิดได้ ถ้าจะเปิด ต้องหยุดเครื่อง แล้วรอ 3 นาที ถึงจะเปิดฝาได้ ถ้ามีผ้าชิ้นเล็กๆ ติดตรงซอกด้านหน้าก็ต้องคอยเอาโยนกลับเข้าไป ไม่งั้นผ้าชิ้นนั้นจะมีแต่ผงซักฟอก ไม่โดนล้างน้ำ ไม่โดนปั่นแห้ง

ถ้ามีผ้าชิ้นเล็กติดค้างที่ฝาหน้า เวลาเปิดไม่ต้องกลัวน้ำหกล้นออกมา ด้วยความที่เครื่องมันใช้น้ำน้อยถึงน้อยมาก เปิด/ปิดฝาระหว่างซักได้เลย โอกาสน้ำล้นออกมาน้อยมาก ยกเว้นใส่ผ้าเยอะมากจริงๆ

หลังจากได้ทดลองใช้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ามาได้ซักระยะ บอกได้เลยว่ามันดีกว่าเครื่องฝาบนมาก ใช้แล้วไม่คิดกลับไปใช้เครื่องฝาบนอีกเลย

ใครเจอปัญหาเสื้อผ้าขาดก่อนเวลา กระดุมหาย ด้ายหลุดรุ่ยบ่อย แนะนำลองเครื่องฝาหน้าดู แล้วจะไม่อยากกลับไปใช้เครื่องฝาบนอีกเลย

Runner. Investor. Father.