หลักและข้อห้ามในการลงทุน

ในการลงทุนระยะยาว อาจจะมีบ้างที่เราจะไขว้เขว และเริ่มสับสนในข้อแตกต่าง ระหว่างการลงทุน กับการพนัน

วันนี้จะมาพูดถึงหลักและข้อห้ามในการลงทุน ที่จะทำให้เราหลีกห่างจากการติดนิสัยเล่นหุ้น จนกลายเป็นการพนัน

1. ลงทุนในสิ่งที่รู้ – ถ้ายังไม่เข้าใจ ว่าธุรกิจนั้นๆ มีรายได้จากทางไหน มีใครในตลาดเป็นคู่แข่งบ้าง แผนระยะยาวบริษัทคืออะไร มูลค่าพื้นฐานที่เหมาะสมเป็นเท่าไหร่ ฯลฯ อย่าลงทุน ให้ข้ามไปและหาบริษัทที่เราเข้าใจแทน

2. อย่าใช้ margin – การกู้เงินมาลงทุน ถือว่าเป็นการลงทุนที่ผิดตั้งแต่เริ่ม เงินกู้มีต้นทุนที่สูงมากอยู่แล้ว หากตลาดขึ้นน้อย ก็แทบไม่คุ้มที่จะกู้มาลงทุน แต่หากตลาดลดลง ไม่ว่ามาก หรือน้อย ก็จะสร้างความเสียหายให้กับพอร์ทการลงทุนของเราอย่างมาก เพราะ leverage ที่เราใช้ มีต้นทุนแพงตั้งแต่แรกเริ่ม หลายคนหมดอนาคต เพราะเล่นหุ้นด้วย margin ลงทุนระยะยาวด้วยเงินเย็นเท่านั้น

3. อย่าเล่น futures หรือ options – Futures และ Options จริงๆ แล้วถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อ balance การลงทุน แต่สุดท้ายถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเก็งกำไร เพราะอัตราได้เสียค่อนข้างสูง

การเก็งกำไร หรือที่เรียกว่า speculate ทุกชนิด ให้ถือว่าเป็นการพนัน และการพนัน ไม่เคยทำให้ใครรวย หรือประสบความสำเร็จ

4. อย่า short sale หุ้น – ไม่ว่าหุ้น หรือบริษัทจะดูแย่แค่ไหน หรือเราจะมีข้อมูลวงในมากขนาดไหน อย่าทำ short sale เด็ดขาด หากเราคาดการณ์ถูก เราอาจจะได้ผลตอบแทนที่ดี แต่หากเราคาดการณ์ผิด หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ในเคสของ ข้อ 3 ไม่เพียงเราจะหมดตัว แต่เรายังจะมีหนี้สินมหาศาลอีกด้วย เพราะหุ้นลงได้จำกัด คือ มูลค่าบริษัทเป็นศูนย์ แต่เวลาหุ้นขึ้น มันสามารถขึ้นไปได้เรื่อยๆ ไม่จำกัด ซึ่งนอกจากจะทำให้เราหมดตัวแล้ว ยังก่อหนี้ก้อนมหาศาลให้กับคนข้างหลังเรา

ขอยกตัวอย่างเศรษฐีคนนึง ชื่อ Adolf Merckle ซึ่งเคยติดอันดับ Forbes Top 100 บุคคลผู้มั่งคั่งที่สุดในโลก มีสินทรัพย์ในครอบครองหลายหมื่นล้านบาท ทั้งธุรกิจยา อสังหาฯ บริษัทปูนซีเมนท์ ฯลฯ

Adolf Merckle เห็นว่าอนาคตธุรกิจ Volkswagen ไม่ค่อยดี เลยตัดสินใจ short sale หุ้นบริษัทดังกล่าว โดยเก็งว่าราคาหุ้น Volkswagen จะลดลงเรื่อยๆ ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่มีอะไรผิดพลาด เพราะในช่วงนั้น Volkswagen ประสบปัญหามากมาย แทบมองไม่เห็นทางออก แต่สุดท้ายเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อบริษัท Volkswagen ได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน จนรอดพ้นวิกฤต และหุ้นก็พุ่งขึ้น สวนทางกับที่นักการเงิน และนักเก็งกำไรต่างคาดไว้

Adolf Merckle ขาดทุนหนัก และไม่สามารถกู้คืนสิ่งที่เสียไปในชั่วเวลาเพียงไม่กี่เดือน และสุดท้ายจบชีวิตตัวเอง ด้วยการฆ่าตัวตาย

5. อย่าซื้อๆ ขายๆ – หากพูดถึงการทำงาน ยิ่งเรากระตือรือร้นมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ตัวผลงานออกมาดีตามไปด้วย แต่การลงทุนไม่ใช่อย่างนั้น ตลาดหุ้นมีลักษณะพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือ ยิ่งเรากระตืนรือร้นมากเท่าไหร่ ผลตอบแทนก็จะยิ่งแปรผกผันมากเท่านั้น กล่าวคือ ยิ่งเราซื้อๆ ขายๆ บ่อยเท่าไหร่ ผลตอบแทนการลงทุนของเรา ก็จะยิ่งแย่ตามไปด้วย

เหตุผลที่เราไม่ควรซื้อๆ ขายๆ บ่อย มีมากมาย ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างซักเล็กน้อย เช่น

  • ยิ่งเราซื้อๆ ขายๆ บ่อย ก็จะยิ่งเสียค่าคอมมากขึ้นตามไปด้วย บางคน trade บ่อยจนไม่รู้ว่าค่าคอมที่เสียไป มากกว่าผลตอบแทนที่เราทำได้ในแต่ละปีเสียอีก
  • การซื้อๆ ขายๆ บ่อยๆ ทำให้เราติดนิสัยจ้องกระดาน แรกๆ อาจจะทุกวัน นานเข้าอาจจะทุก 3-4 ชั่วโมง หนักข้อขึ้น ก็แทบจะทุกชั่วโมง หรืออาจจะกลายเป็นรายนาที ซึ่งทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์* และนอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังบ่มเพาะนิสัยการเก็งกำไร (การพนัน) โดยไม่รู้ตัวอีกด้วย

6. อย่าละเลยสุขภาพ – ถ้าเรากินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวเตร่ กินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะหาเงินได้มากขนาดไหน ก็เปล่าประโยชน์ เผลอๆ อาจจะตายก่อนได้ทันใช้เงิน

หมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ เลิกเหล้า-ยา ดูแลสุขภาพกาย-สุขภาพใจ ของทั้งตัวเอง และคนรอบข้าง เงินมากแค่ไหน ก็ไม่สำคัญเท่ากับการมีสุขภาพที่ดี มีคนรอบข้างที่เราห่วงใย และคอยเอาใจใส่เรา

เท่าที่นึกออก ก็คงมีแค่นี้ หวังว่าบทความอันนี้ จะช่วยเตือนสติ ไม่ให้เราลงทุนออกนอกลู่นอกทางกัน หรือถ้าใครออกไปแล้ว ก็ขอให้คิดได้ และกลับมาเข้าลู่ได้ทัน

*หมายเหตุ: เงินเราสามารถหาได้ไม่จำกัด แต่เวลาเป็นสิ่งที่เราทุกคนมีจำกัด อย่ามัวแต่จ้องกระดานหุ้น ใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตนเอง และผู้อื่น

Runner. Investor. Father.