ปกติไม่ชอบทำงานให้ใคร และไม่รับดูแลพอร์ทลงทุนคนอื่น เพราะไม่ต้องการสร้างภาระผูกพันให้ตัวเอง ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร และไม่ต้องการมี conflict of interest
ยิ่งเป็นการลงทุนในตลาดหุ้น ยิ่งเกิด conflict ได้ง่าย เช่น เอาเงินคนอื่นมาช้อนซื้อหุ้นที่เราต้องการจะขาย ในราคาแพงๆ เพื่อให้เราได้กำไรมากขึ้น (โยนหุ้นเราให้พอร์ทเพื่อนรับซื้อในราคาแพงๆ) เป็นต้น
แต่เนื่องจากเพื่อนคนนี้สนิทกันมานาน และไม่มีเวลาศึกษาหาความรู้ในด้านการลงทุน บวกกับตัวเราเองต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง เลยรับอาสาดูแลพอร์ทให้ โดยมีข้อแม้คือ “อย่าถาม” เพราะถ้าจะต้องลงทุนไป ชี้แจงตัวเองไป ก็จะเสียเวลามาก ขี้เกียจตอบคำถามด้วยอีกอย่าง
พอเข้าใจตรงกัน ก็เริ่มลงทุนให้ เริ่มแรกลงทุนด้วยเงินลงทุนตั้งต้นราวๆ 200,000 บาท และลงทุนเพิ่ม (หักจากเงินเดือน) อีกราวๆ 2-3 หมื่นบาท ทุกเดือน
ช่วงปีแรกของการลงทุน พอร์ทมีขึ้นมีลง ไม่ได้เติบโตมากเท่าไหร่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป และด้วยความสม่ำเสมอในการลงทุน ทำให้ได้เก็บหุ้นดีราคาถูกในช่วงวิกฤต ช่วงนั้นจำนวนเงินออมเท่าเดิม แต่ซื้อหุ้นเก็บเข้าพอร์ทได้ปริมาณมากขึ้น
เพื่อให้เห็นภาพ จะขอยกตัวอย่างดังนี้
หุ้น A ปกติราคาจะอยู่ที่ 50 บาท/หุ้น เงิน 20,000 บาท จะเก็บหุ้นเข้าพอร์ทได้ 400 หุ้น
แต่ในช่วงวิกฤต หุ้น A ราคาตกมาเหลือ 20 บาท/หุ้น เงิน 20,000 บาท เท่าเดิม แต่เก็บหุ้นได้มากถึง 1,000 หุ้น เลยทีเดียว
ยิ่งเวลาผ่านไป บวกกับความสม่ำเสมอในการลงทุน และความกล้าในการตัดสินใจลงทุนเพิ่มในช่วงวิกฤต (เพื่อนตัดสินใจออมเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน ขายรถที่ไม่ได้ใช้ และขายบ้านที่ไม่ค่อยได้ไปอยู่ เพื่อนำเงินมาลงทุนเพิ่ม) ทำให้พอร์ทโตเร็วกว่าที่คาดไว้มาก
นับจากวันที่ลงทุนวันแรก คือ 12 เมษายน 2559 ผ่านไป 2 ปี 10 เดือน 14 วัน พอร์ทมีมูลค่าแตะ 10 ล้านบาทเป็นครั้งแรก
ระยะเวลาลงทุนราวๆ 3 ปี กับเงินลงทุนตั้งต้น 2 แสนบาท และออมเพิ่มทุกเดือน บวกกับเงินจากการขายสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็น/ไม่ได้ใช้ จนเป็นเงินต้นสะสมที่ราวๆ 5.6 ล้านบาท เท่ากับมีกำไรสะสมประมาณ 4.4 ล้านบาท คิดเป็นผลตอบแทน 78%
ทีแรกตั้งเป้าการออมไว้ที่ 8 หลัก ภายใน 12-15 ปี (ผลตอบแทนคาดหวัง 8.5% ทบต้น + 3.5% จากเงินปันผล ต่อปี) แต่ด้วยเพื่อนออมเก่งกว่าที่คิดไว้มาก และมีกระสุน (เงินก้นถุง) ตลอดทุกครั้งที่เกิดวิกฤต ทำให้เก็บออมถึงเป้าหมายไวเกินกว่าที่คาดไว้มาก
การลงทุนระยะยาว ตอบโจทย์เรื่องการออมเงิน พิสูจน์ได้จากประสบการณ์ที่ผ่านๆ มา ทั้งเพื่อนๆ ที่ลงทุนระยะยาวมาด้วยกัน ทั้งที่เราลงทุนด้วยตัวเอง และล่าสุดพอร์ทเพื่อนที่เราช่วยลงทุนให้ ทุกคนล้วนบรรลุเป้าหมายในการออม เมื่อออมอย่างมีวินัย และสม่ำเสมอ
ปล.หลังจากนี้ก็คงจะหยุดดูแลพอร์ทให้เพื่อน และกลับไปใช้เวลาทำโน่นทำนี่ตามเดิม จริงๆ ก็ไม่ได้เสียเวลาอะไรมากมาย ที่ช่วยเพื่อนดูแลพอร์ท เพราะเราก็ต้องคอยตามกิจการที่เราลงทุนอยู่แล้วเสมอๆ (พอร์ทเพื่อนก็ถือหุ้นตัวเดียวกันทั้งหมด) แต่จากประสบการณ์ เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร
