ไปโรงเรียนสาย

ด้วยความที่ป๊าตื่นสาย ก็พลอยไปส่งแอลไปโรงเรียนสายแทบจะทุกวัน เดือนๆ นึงจะมีไปทันเข้าแถวที่โรงเรียนซัก 1-2 ครั้ง เรียกว่าไปสายจนครูจำได้

มาอาทิตย์นี้ แอลเริ่มงอแงไม่อยากไปโรงเรียน ป๊าไม่คิดว่าจะเป็นเพราะหยุดเรียนไปนาน อย่างที่ครูท่านนึงบอก เลยเกริ่นๆ กับครูอีกคน ก็ได้รับรู้ความจริงจากปากคุณครูว่า คุณครูดุแอล ที่แอลไม่ตั้งใจเรียน ไม่เชื่อฟัง นั่งหันหลังให้คุณครู พอดุแล้ว แอลก็มีอาการต่อต้าน ด้วยความที่เป็นเด็ก ก็พลอยทำให้คิดว่าการมาโรงเรียน ทำให้โดนดุ ไม่สนุก เลยไม่อยากมาโรงเรียน

พูดอย่างนี้ซ้ำๆ เข้าทุกเช้า ป๊าก็อดห่วงไม่ได้ว่า มันจะอยู่ในจิตใต้สำนึกแอล ว่าโรงเรียนไม่สนุก ไม่อยากมาโรงเรียน ไม่อยากมาโรงเรียน

คิดได้ดังนี้ ก็ทำให้นึกถึงวันแรกๆ ที่แอลเข้าเรียน แอลดูมีความสุขมาก ที่ได้วิ่งเล่น ได้นั่งชิงช้ากับเพื่อนๆ ตอนเช้าๆ ในลานเด็กเล่น นี่ป๊าเอาเวลาสนุกๆ ของแอลออกไป แล้วไปส่งแอลเพื่อให้ทันเข้าห้องเรียนซะงั้น แอลไม่มีโอกาสได้เตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย (ผ่านการวิ่งเล่น) และจิตใจ (ผ่านการเข้าแถวเคารพธงชาติ และสวดมนต์ยามเช้า) มานานเท่าไหร่แล้วนะ

ว่าแล้วป๊าก็ปรับเปลี่ยนใหม่ นอนให้เร็วขึ้น ตื่นให้เช้าขึ้น เพื่อพาแอลไปส่งโรงเรียน ไม่ใช่เพื่อให้ทันเข้าแถว แต่เพื่อให้แอลได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ยามเช้าให้ทันให้ได้ วันแรกที่ทำได้ แอลยังงอแงไม่อยากไปโรงเรียน แต่พอได้เห็นเพื่อนๆ กำลังลงสไลเดอร์ หัวเราะร่า แอลเริ่มยิ้มออก แกว่งแขน ขาก้าวพุ่งไปหาเพื่อนๆ ทันที พร้อมกับลืมคำว่าไม่อยากไปโรงเรียนเสียสนิท ตอนนี้แอลมีแต่ความสนุก และความร่าเริง พร้อมรับวันใหม่ๆ ของแอล

ถึงเวลาเข้าแถว แอลมีหันมามองป๊าเป็นระยะ เหมือนจะยังกังวลเรื่องไม่อยากมาโรงเรียน กลัวคุณครูดุ ซึ่งภายหลังป๊าก็ค่อยๆ อธิบายกับแอลว่าทำไมครูถึงดุแอล และทำอย่างไร ถึงจะไม่โดนดุ และเป็นที่รักของคุณครูและเพื่อนๆ ซึ่งแอลก็เข้าใจ และยังสัญญาว่าแอลจะไม่ดื้อ จะฟังคุณครูมากขึ้นด้วย

มาวันนี้ เป็นวันที่ 4 แล้ว ที่ป๊ามาส่งแอลทันเข้าแถวที่โรงเรียน แต่วันนี้พิเศษหน่อยตรงที่เป็นวันศุกร์ ซึ่งจะมีการเล่านิทานให้เด็กๆ ฟังยามเช้า แต่ก่อนป๊าเคยคิดว่า นิทานจะฟังไปทำไม ป๊าก็มีเลือกนิทานดีๆ เยอะแยะเต็มไปหมด ซื้อมาเล่าให้แอลฟัง โดยลืมคิดไปว่าสภาพแวดล้อมที่โรงเรียน กับที่บ้าน มันต่างกัน

ป๊าไม่เคยมาส่งทันคุณครูเล่านิทานเลยแม้แต่วันเดียว เพราะมันเช้ามาก แต่วันนี้ป๊ามาทัน เดินเข้าโรงเรียนมา ป๊าได้ยินเสียงคุณครูกำลังเล่านิทานมาแต่ไกล ป๊าดีใจ รีบพาแอลเดินไวๆ เพื่อไปนั่งฟังนิทาน แอลยังมีอิดออด ไม่อยากเดิน พร้อมกับพูดว่า “ถ้าแอลไม่ไปโรงเรียน แล้วจะเป็นยังไง” ซึ่งระยะหลังๆ เป็นคำพูดติดปากแอล แสดงความไม่อยากมาโรงเรียน (แต่ก็เริ่มน้อยลง)

พอเดินมาถึงบริเวณลานเล่านิทาน แอลเอากระเป๋านักเรียนไปจากมือป๊า พร้อมกับรีบเดินไปนั่งฟังนิทานอย่างใจจดใจจ่อ แอลนั่งฟังอย่างตั้งใจ ถึงขนาดยืดอก แล้วลุกนั่งบนส้นเท้า เพื่อให้มองเห็นสิ่งที่ครูกำลังเปิดให้ดูในหนังสือนิทาน บางครั้งก็มีทำไม้ทำมือกับเพื่อนๆ ถึงสิ่งที่ครูกำลังเล่า ดูแอลมีความสุขมาก ลืมหันมามองป๊า ที่กำลังขะมักขะเม้นถ่ายรูปแอล มาให้หม่าม๊าดูที่บ้าน

ป๊าเข้าใจแล้วว่า การไม่ไปโรงเรียนสาย มีความสำคัญต่อพัฒนาการแอล ต่อไปป๊าสัญญาว่าจะพาแอลไปทันวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ทันคุณครูเล่านิทานทุกเช้าวันศุกร์ เพื่อให้แอลได้มีเวลาปรับตัว และเตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่… มีความสุขกับการเรียนนะครับ

Runner. Investor. Father.